เครื่องวัดอัตราการไหลแบบแม่เหล็กไฟฟ้า (Electromagnetic Flowmeter) คืออุปกรณ์ที่ใช้วัดอัตราการไหลของของเหลว โดยอาศัยหลักการเหนี่ยวนำแม่เหล็กไฟฟ้า. เมื่อของเหลวที่เป็นตัวนำไฟฟ้าไหลผ่านสนามแม่เหล็กที่ถูกสร้างขึ้น จะเกิดแรงดันไฟฟ้าขึ้น ซึ่งแรงดันไฟฟ้านี้จะแปรผันตามอัตราการไหลของของเหลว. เครื่องวัดชนิดนี้เหมาะสำหรับของเหลวที่มีคุณสมบัติเป็นตัวนำไฟฟ้า เช่น น้ำ, น้ำเสีย, และของเหลวที่มีส่วนผสมของสารเคมีบางชนิด

หลักการทำงาน:

สนามแม่เหล็ก: เครื่องวัดจะสร้างสนามแม่เหล็กขึ้นภายในท่อที่ของเหลวไหลผ่าน

แรงดันไฟฟ้า: เมื่อของเหลวไหลผ่านสนามแม่เหล็ก จะเกิดแรงดันไฟฟ้าเหนี่ยวนำในทิศทางตั้งฉากกับทั้งสนามแม่เหล็กและทิศทางการไหลของของเหลว

การวัด: แรงดันไฟฟ้าที่เกิดขึ้นจะถูกตรวจจับโดยอิเล็กโทรดที่ติดตั้งอยู่ในท่อ และส่งต่อไปยังเครื่องวัด เพื่อคำนวณและแสดงผลเป็นอัตราการไหล

ข้อดีของเครื่องวัดอัตราการไหลแบบแม่เหล็กไฟฟ้า:

ความแม่นยำสูง: มีความแม่นยำในการวัดสูง โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อวัดของเหลวที่เป็นตัวนำไฟฟ้า

ไม่มีชิ้นส่วนที่สึกหรอ: เนื่องจากไม่มีส่วนที่สัมผัสกับของเหลวโดยตรง จึงไม่มีชิ้นส่วนที่สึกหรอ ทำให้ไม่ต้องบำรุงรักษาบ่อยนัก

ใช้งานได้หลากหลาย: สามารถใช้งานได้กับของเหลวหลากหลายชนิด เช่น น้ำ, น้ำเสีย, สารเคมี, และของเหลวในอุตสาหกรรมอาหาร

ไม่มีแรงดันตก: การวัดอัตราการไหลไม่ทำให้เกิดแรงดันตกในท่อ

ข้อจำกัด:

ของเหลวต้องเป็นตัวนำไฟฟ้า: เครื่องวัดชนิดนี้ไม่เหมาะสำหรับของเหลวที่ไม่เป็นตัวนำไฟฟ้า เช่น น้ำมัน

การรบกวนทางไฟฟ้า: อาจเกิดปัญหาจากการรบกวนทางไฟฟ้าจากภายนอกได้

การใช้งานกับของเหลวที่มีความหนืดสูง: อาจมีข้อจำกัดในการใช้งานกับของเหลวที่มีความหนืดสูง

การประยุกต์ใช้งาน:

เครื่องวัดอัตราการไหลแบบแม่เหล็กไฟฟ้าถูกนำไปใช้งานอย่างแพร่หลายในหลากหลายอุตสาหกรรม เช่น

อุตสาหกรรมน้ำ: สำหรับการวัดปริมาณน้ำประปา, น้ำเสีย, และน้ำในกระบวนการผลิต

อุตสาหกรรมอาหาร: สำหรับการวัดของเหลวในกระบวนการผลิตอาหารและเครื่องดื่ม

อุตสาหกรรมเคมี: สำหรับการวัดของเหลวในกระบวนการผลิตและการควบคุมคุณภาพ

อุตสาหกรรมพลังงาน: สำหรับการวัดของไหลในระบบทำความร้อน, ทำความเย็น, และการผลิตไฟฟ้า